วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
กิจกรรม"รวมพลังแห่งความภัคดี"จังหวัดมหาสารคาม โรงเรียนสารคามพิทยาคม
วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 เวลา 8.00 น.
โรงเรียนสารคามพิทยาคมและโรงเรียนอื่นๆอีกทั่วประเทศได้ร่วมกันทำกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดีและรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบริเวณหน้าเสาธงซึ่งจะจัดพร้อมกันทั้งประเทศและพิธีปลูกต้นราชพฤกษ์ และร่วมกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที!!
โดยคณะผู้บริหารและผู้ช่วยอำนวยการและนักเรียนอีกหลายพันคนร่วมใจกันกล่าวคำถวายสัตว์ปฏิญาณเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดงานรวมพลังเพื่อน้อมถวายพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อแสดงความอาลัยน้อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยให้จัดในกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัดและต่างประเทศ โดยในประเทศและกทม.จัดพร้อมกันในวันอังคารที่ 22 พ.ย.2559 เวลา 08.00 น. สำหรับรัฐบาล จัด ณ สนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สำหรับต่างประเทศให้จัดตามสถานที่ที่เหมาะสมและตามเวลาท้องถิ่นที่ใกล้เคียงกับเวลาในประเทศไทยหรืออาจพิจารณาจัดช่วงเวลาอื่นใดตามที่สะดวกและเหมาะสมก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับข้อความปฏิญาณนั้น สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้เผยแพร่ข้อความปฏิญาณที่จะใช้กล่าวพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 22 พ.ย. โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้นำกล่าว ดังนี้
(ผู้นำกล่าวนำก่อนแต่ผู้เดียว) ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอนำประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า และทุกภาคส่วนซึ่งชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้ ถวายสัตย์ปฏิญาณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแสดงความจงรักภักดีและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ปกเกล้าปกกระหม่อม ให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรชาวไทย อีกทั้งทรงบันดาลให้เกิดการพัฒนาประเทศไทยในทุกด้าน ตลอดมาเป็นเวลาถึง 70 ปี แม้บัดนี้จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ก็ยังทรงสถิตอยู่ในใจของปวงประชาชนชาวไทยด้วยความวิปโยคอาลัยอย่างไม่มีวันลืมเลือน ณ วาระนี้ ซึ่งปกติเคยเปล่งสัจวาจา (สัด-จะ-วา-จา) ถวายพระพรชัยมงคลเสมอมา จึงขอตั้งสัตยาธิษฐานถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเครื่องบูชาพระมหากรุณาธิคุณแทนด้วยข้อความดังต่อไปนี้
(กล่าวตามผู้นำทีละวรรค) ข้าพระพุทธเจ้า (ออกชื่อแต่ละคนพร้อมกัน) จะซื่อตรงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทุกพระองค์ ในพระบรมราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
ข้าพระพุทธเจ้า จะปฏิบัติหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย รักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการพัฒนาประเทศ อย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งจะร่วมกันปฏิรูปประเทศ และสนับสนุน ให้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ปกครองประเทศ ด้วยหลักนิติธรรม และธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุข แห่งประชาชนชาวไทย
ข้าพระพุทธเจ้า จะเป็นคนดี มีคุณธรรม ร่วมกันนำพาประเทศชาติ ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบสุข สันติสุข จะรู้รักสามัคคี เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ และประชาชนตลอดไป
ข้าพระพุทธเจ้า ขอปวารณาตัวว่า จะพัฒนาตนเอง เพิ่มการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นพลังที่ยั่งยืน ในการพัฒนาประเทศต่อไป
ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายสัจวาจา (สัด-จะ-วา-จา) ว่าจะประพฤติปฏิบัติ ตามรอยพระยุคลบาท และศาสตร์ของพระราชาผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ และเชิญพระราชคุณธรรมจรรยา มาเป็นแนวทางการดำรงชีวิต ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ เพื่อสืบสานพระบรมราชปณิธาน เพื่อความสุขความเจริญ ของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของราชอาณาจักรไทยสืบไป
(จบคำปฏิญาณ) (ผู้นำกล่าว) ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมกัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น