โรงเรียนสารคามพิทยาคมถือได้ว่าเป็นโรงเรียนที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมากว่า104ปีและเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษซึ่งมีนักเรียนกว่า4,000คน :) ด้วยความที่เป็นโรงเรียนที่มีความเก่าเเก่และยาวนานจึงเป็นสถานที่ที่รวบรวมความทรงจำดีๆและเรื่องราวต่างๆของชีวิตของใครหลายๆคนและเป็นสถานที่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมามากมาย และนอกจากนั้นโรงเรียนสารคามพิทยาคมยังมีเรื่องลึกลับต่างๆและเรื่องราวแปลกๆที่น่าค้นหาอีกมากมาย เช่น เรื่องน่าขนลุกของ อาคาร6 (ซึ่งผมจะยังไม่ทำข้อมูลขึ้นมาครับถ้าหากบทความนี้ได้รับความนิยมผมจะทำแยกมาอีกที^^)
หรือ เรื่องราวสุดแปลกของคุณครูและนักเรียน(อันนี้ไม่แน่ใจ555) และในบทความนี้เราจะมาพูดถึง "เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับโรงเรียนสารคามพิทยาคม"
1.สารคามพิมยาคมเคยเป็นโรงเรียนชายล้วนมาก่อน
โรงเรียนสารคามพิทยาคมได้ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2449 ในสมัยก่อนใช้ชื่อว่า "โรงเรียนสารวิทยาวิบูลย์" โดยใช้ศาลาการเปรียญของวัดโพธิ์ศรีธารามเป็นที่เรียน และในสมัยนั้นรับเฉพาะแต่นักเรียนชาย มีพระภิกษุเป็นครูสอน โดยมีฐานะเป็นโรงเรียนประจำอำเภอ อุทัยสารคาม ปัจจุบันก็คือ อำเภอเมืองมหาสารคาม และเป็นโรงเรียนแฝดกับ โรงเรียนบำรุงราษฏร (โรงเรียนบรบือ) อำเภอปัจฉิมสารคาม หรือ อำเภอบรบือ
* พ.ศ. 2456 อำเภออุทัยสารคาม ได้รับการยกย่องขึ้นเป็นจังหวัดมหาสารคาม และได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนใหม่เป็น "โรงเรียนสารคามวิทยาคม" มีนายชื่น วานิชกะ(ขุนวานิชกศึกษากร) เป็นครูใหญ่คนแรก โดยสถาปนาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2456 จึงถือว่าวันนี้เป็นวันสถาปนาโรงเรียนเป็นต้นมา ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อจาก วิทยาคม เป็น พิทยาคม ให้เหมาะสมกับสมัยนิยม
2.บ่อปลาหน้าอาคาร5 *ขอบคุณรูปภาพสวยๆจากคุณSansern Kanmano*
รู้หมือไร่!! หน้าอาคาร5 โรงเรียนสารคามพิทยาคมเคยมีบ่ปลาด้วยนะ:) แต่ปัจจุบันไม่มีอยู่แล้วซึ่ง ถึงจะเป็นรูปทีนานมาแล้วแต่ก็สวยงามมาก!!
3.นอกจากการส่งแฟ้มสะสมผลงานที่ยากลำบากการแก้แถวก็ยากลำบากเช่นกัน
ถ้าใครคิดจะติดแถวละก็จงทำใจรอไว้ได้เลยเพราะการแก้มันไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิดเพราะการขาดเเถวเพียง1ครั้งคุณอาจจะได้มาโรงเรียนตอนปิดเทอมถึง3วันเลยทีเดียวเเละการแก้ก็ใช่ว่าจะง่ายดายเสมอไปเพราะคุณจะต้องทำความสะอาดโรงเรียนและสวดมนต์ร้องเพลงชาติตามจำนวนที่คุณติดและแน่นอนมันเป็นสิ่งที่สร้างระเบียบวินัยให้กับนักเรียนสารคามพิทยาคม
4.โครงการห้องเรียนคู่ขนาน
ห้องโครงการของโรงเรียนสารคามพิทยาคมนั้นมีมากมายและแต่ละห้องก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียววันนี้เราจะมาพูดถึงห้องเรียนคู่ขนานที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีใจรักในสายอาชีพและสายสามัญได้เรียนแบบควบคู่กันไปทั้งสองสายซึ่งเป็นห้องเรียนที่มีความพิเศษคือตัวผู้เรียนเองจะได้รับทั้งความรู้ที่นำไปใช้สอบและความรู้ที่นำไปประกอบอาชีพได้จริงซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับสายอาชีพมากขึ้นเนื่องจากเรียนไปแล้วมีงานรองรับและโอกาศที่จำนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.โรงเรียนสารคามพิทยาคมเป็นโรงเรียนพระราชทาน
รางวัลพระราชทานคือรางวัลอันทรงคุณค่าเเละเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของแต่ละโรงเรียนโดยเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชปรารภกับหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใจความว่า " มีนักเรียนจำนวนมากซึ่งมีความประพฤติดี และมีความมานะพยายามศึกษาเล่าเรียนได้ผลดี รวมทั้งมีโรงเรียน ซึ่งจัดการศึกษาดีจนนักเรียนสอบได้ผลดีมากเป็นส่วนรวม นักเรียนและโรงเรียนที่มีคุณสมบัติดังกล่าว สมควรจะได้รับพระราชทานรางวัล "
6.ที่แห่งนี้คือบ้านหลังที่2
นับเป็นเวลานานมากแล้วซึ่งที่แห่งนี้คือที่ๆรวบรวมความทรงจำของใครหลายๆคนเอาไว้ไม่ไม่จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายและทุกๆอย่างนั่นจะหล่อหลอมทั้งความคิดร่างกายและจิตใจของทุกๆคนเพื่อทำให้เยาวชนอันเป็นรากฐานแห่งความสำเร็จของประเทศชาติเเละเป็นที่ที่ให้ทั้งความสุขความทุกข์และประสบการณ์ต่างๆได้พบได้เจอกับเพื่อนๆผู้คนต่างๆจากหลายๆที่มารวมกันเกิดเป็นครอบครัวเล็กๆในบ้านหลังใหญ่แห่งนี้...